สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้ผม Mr.Bell มีความรู้เกี่ยวกับช่องทางการทำธุรกิจขายส่งมากฝากครับ เป็นหลักการจากประสบการณ์ตรงที่ได้เรียนรู้โดยตรงจากการร่วมงานกับเจ้าของธุรกิจขายส่งสินค้าหลากหลายชนิด
ทั้งขายส่งในประเทศไทยและขายส่งต่างประเท
แน่นอนครับสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับธุรกิจขายส่งคือการหาลูกค้าเพื่อนำสินค้าที่มีอยู่ในมือของเราไปกระจายขายต่อ
แล้วจะทำอย่างไรดีละครับถึงจะสามารถหาลูกค้ากลุ่มนี้ได้
ไม่ง่ายเลยทีเดียวครับเพราะคนจำนวน 100 คนจะมีสัก 5 คนไหมที่เป็นพ่อค้าแม้ค้าขายปลีก
แล้วเราจะเข้าถึงเค้าได้อย่างไร
ดังนั้นการโฆษณาจึงเป็นเครื่องมือหลักที่สำคัญมากๆในการทำธุรกิจขายส่ง
หลายบริษัททุ่มงบประมาณและให้ความสำคัญเกี่ยวกับการทำโฆษณาให้กับธุรกิจของตนเอง เพราะถ้าหากได้ลูกค้าที่สามารถกระจายสินค้าและขายสินค้าของเราได้ในปริมาณมากๆก็ถือว่าคุ้มค่ามากๆครับกับค่าโฆษณาที่จ่ายไปเพียงน้อยนิด
แล้วจะทำโฆษณาแนวไหนดี ในยุกต์นี้คงหนีไม่พ้นการทำโฆษณาออนไลน์
เนื่องจากน่าจะตรงกลุ่มลูกค้าที่สุดครับ เพราะคนไทยส่วนใหญ่สามารถเข้าถึง Internet
ได้ง่ายมากๆครับในยุกต์นี้
มาชมกันครับว่ามีการทำโฆษณาประเภทไหนบ้างครับที่จะสามารถทำให้ธุรกิจของเราเติบโตได้บ้าง
- โฆษณาผ่านบริการ PPC ของ Search Engine
เพื่อนอาจจะใช้การโฆษณาผ่าน Google Adwords หรือ ทำการโฆษณาผ่านระบบโฆษณาของ Bing หรือ Yahoo
ก็ได้ครับ
เพราะเครื่องมือตัวนี้เป็นการลงโฆษณาที่สามารถเจาะกลุ่มลูกค้าได้ตรงมากๆครับในยุกต์นี้
หากได้ผู้เชี่ยวชาญมาวิเคราะห์ระบบด้วยแล้ว ไม่น่าที่จะพลาดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายครับ
แต่ต้องใช้เงินทุนหนาแน่นหน่อยครับเพราะทุกธุรกิจล้วนมีคู่แข่งครับ
เป็นแนวทางทางใช้เงินต่อเงินครับ
- การทำเว็บไซต์ให้ติดอันดับบน Search Engine
ช่องทางนี้น่าจะเป็นช่องทางที่ประหยัดและได้ผลระยะยาวสุดๆครับสำหรับการทำโฆษณาออนไลน์
หากเว็บไซต์ขายส่งสินค้าของเราติดอันดับอยู่บนหน้า Keywords ที่มีปริมาณค้นหามากๆและตรงกับสินค้าที่เราขายส่ง
บนระบบ Search engine อย่าง Google, Bing และ Yahoo ผมยืนยันครับว่าเพื่อนๆสามารถมีลูกค้ารายใหม่แน่นอนครับ
- โปรโมทผ่าน Directories ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจขายส่งโดยตรงก็ได้ครับ หากมีเงินทุนแต่ยังไม่พร้อมเรื่องบุคคลาการที่จะทำการตลาดออนไลน์ให้กับบริษัทของเรา
- E-mail Marketing อีก 1 ช่องทางการหาลูกค้าจาก Lists Email ที่เรามีอยู่ครับ ส่วนตัวผมคิดว่าการส่ง Email เป็นช่องทางยอดฮิตอีกช่องทางที่จะสามารถสร้างลูกค้าใหม่ให้กับเราได้ แล้วถ้าเรามือใหม่จะไปหา List Email มาจากไหนล่ะ เป็นคำถามที่ดีครับ อันดับแรกเลยครับ
o Email
ที่ได้จากการสมัครสมาชิกของลูกค้าเข้ามาในเว็บไซต์ของเรา
o Email
ที่ได้จากการที่มีผู้สนใจอยากรับข่าวสารจากเรา
o Email
จากการลงทะเบียน
อาจจะเป็นการขอรายชื่อ เบอร์โทร Email จากการที่เรานำสินค้าไปแสดงในงานต่างๆก็ได้ครับ
o จากหนังสือรวบรวมรายชื่อธุรกิจครับ
รวบรวบ Email ได้แล้วก็จัดการสร้าง Email แคมเปนดีๆส่งให้กับลูกค้าได้เลยครับ
หากส่งครั้งละมากๆหรือหมื่น หลายพัน Email ต่อครับ เค้าก็มี website ให้บริการด้สนนี้อยู่ครับเช่น
mailchimp เป็นต้นครับ สำหรับการทำ Email
marketing เพื่อจัดส่งให้คนผู้ที่ไม่ได้ร้องขอเพื่อรับข้อมูลของเรา เพื่อไม่ให้เป็นการ
Spam และรบกวนจนเกินไป เพื่อนๆควรที่จะมีช่องทางเพื่อที่จะให้เค้ายกเลิกการรับข้อมูลจากเราด้วยครับ
เผื่อกรณีที่เค้าไม่อยากรับข้อมูลจากเราจริงๆ
สำหรับการทำโฆษณาแบบลงหนังสือพิมพ์หรือผ่านรายการโทรทัศน์ วิทยุ อาจจะไม่เหมาะสำหรับธุรกิจขายส่งก็เป็นได้ครับ
เพื่อนๆลองคิดย้อนกลับไปครับ หากเราเป็นผู้ขายสินค้าทั่วไป คงไม่อยากให้ลูกค้าหรือผู้ซื้อทั่วไปรู้ว่าร้านของตนเองรับสินค้ามาจากที่ไหนเป็นแน่ครับ
เพราะเค้าจะไม่สามารถกำหนดราคาที่ทำกำลังได้สูงสุดได้ง่ายๆครับ ทุกคนก็จะรู้และสามารถสืบราคาขายได้ไม่ยากครับ
ธุรกิจด้านนี้จึงไม่นิยมลงโฆษณาแบบโจ่งแจ้งให้ทุกคนได้เห็นครับเพราะบางครั้งก็เห็นใจลูกค้าด้วยกันเอง
หลายบริษัทที่ทำธุรกิจขายส่งก็มีการกำหนด Order ขั้นต่ำซึ่งก็เป็นเรื่องปกติครับเพราะต้องซื้อเยอะๆถึงจะได้ราคาส่ง
แต่สำหรับเจ้าของธุรกิจบางเจ้าก็กำหนดราคาสำหรับลูกค้าใหม่โดยมีการกำหนด Order
แรกด้วยครับว่าต้องซื้อในปริมาณที่มากกว่าลูกค้าเก่าเหมือนกับเป็นค่าแรกเข้าประมาณนั้นครับ
ส่วนตัวผมคิดว่าเป็นการสกีนคนทั่วไปอีกชั้นหนึ่งครับ
เพื่อที่คนทั่วไปจะได้ไม่ต้องมาติดต่อเพื่อซื้อสินค้าจากทางผู้ค้าส่งครับ
เป็นการบังคับไปในตัวให้คนทั่วไปกลุ่มย่อยๆไปซื้อสินค้ากับลูกค้าผู้ค้าปลีกของเราอีกทีครับ
เป็นการรักษาห่วงโซ่ธุรกิจไปในตัวครับ ลูกค้าของเราก็มีกลุ่มลูกค้า
พอต่อไปเค้าขายสินค้าหมดก็สั่งสินค้ากับทางเราอีก
เราเพียงแต่ทำหน้าที่ผลิตและหาสินค้าใหม่ๆที่มีคุณภาพก็ OK แล้วครับ
แล้วมีเทคนิคเอาใจลูกค้าให้ทำธุรกิจกับเรานานไหมครับ
- สิ่งสำคัญที่สุดคือเรื่องของคุณภาพสินค้าครับ หากสินค้าดีก็มีแต่คนเค้ามาหาแล้วอยากทำธุรกิจด้วยครับ
- การสื่อสาร ตอบคำถาม รวดเร็ว ทันใจ อัธยาศัยดี
- เราอาจให้ส่วนลดเป็น % ตามปริมาณสินค้าที่ลูกค้าสั่งซื้อก็ได้ครับ
- มีนโยบายรับประกันคุณภาพสินค้าเพื่อให้ลูกค้าสบายใจหากซื้อของเราแล้วไม่ดีจะเอาไปเปลี่ยนหรือแลกเงินคืนที่ไหน ดังนั้นข้อมูลตรงนี้ต้องชัดเจน
- นโยบายส่งฟรี ตามปริมาณการสั่งซื้อที่กำหนด ก็น่าดึงดูดใจครับ
มุมมองของลูกค้าที่ต้องการซื้อสินค้าราคาส่งเป็นอย่างไร
หากผมเองเป็นเจ้าของร้านค้าปลีกผู้กำลังหาสินค้าไปขายในร้าน
ผมจะต้องคิดถึงเรื่องอะไรบ้าง มาช่วยกัน Lists ดีกว่าครับ
- คุณภาพของสินค้า หากลงทุนไปเยอะๆจะเป็นที่ต้องการของตลาดหรือไม่
- ราคาขายสินค้าเมื่อรวมค่าแพคเกจแล้วจะสามารถทำกำไลต่อชิ้นให้เรามากน้อยขนาดไหน
- ต้นทุนการขนส่ง
- ความใหม่และความไม่ซ้ำใครของสินค้า
- ความน่าเชื่อถือของผู้ขายส่ง มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งไหม จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ มีลูกค้าคนอื่นๆร้องเรียนหรือไม่ ลองเอาชื่อร้านหรือเจ้าของไป search บน Google ก็ได้ครับ
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับความรู้ใหม่ๆเกี่ยวกับการทำธุรกิจขายส่ง
หวังว่าข้อมูลข้างต้นคงจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับเพื่อนๆชาวไทยที่กำลังมองหาธุรกิจใหม่ๆให้กับตนเองและครอบครับนะครับ
สุดท้ายต้องขอขอบพระคุณเจ้าของธุรกิจ Wholesale Jewelry ผู้ส่งออกเครื่องประดับราคาส่ง
คุณ Yosi ที่ได้สละเวลาระหว่างการประชุมให้ความรู้ดีๆนำมาเขียนแลกเปลี่ยนความรู้ให้เพื่อนๆได้อ่านกันครับ
วันนี้ผม Mr.Bell ขอลาไปก่อนโอกาสหน้าจะนำธุรกิจ เกร็ดความรู้ดีๆมาฝากอีกครับ
เขียนโดย
Mr.Bell